วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT Acer จัดหนัก จอทัชสกรีน 15.6 นิ้ว



Acer จัดหนัก จอทัชสกรีน 15.6 นิ้ว




ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่อุปกรณ์จอสัมผัส ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท๊บเล็ต แม้กระทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ก็ยังมีจอสัมผัสกับเขาด้วย แต่ระบบจอสัมผัสสำหรับโน้ตบุ๊คนั้นยังค่อนข้างใหม่จึงมีราคาที่สูงตามไปด้วย วันนี้ Acer มีของขวัญสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่อยากใช้โน้ตบุ๊คจอสัมผัส แถมยังได้จอขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ด้วยการออกโน้ตบุ๊ต Acer Aspire V5 Touch มาให้เราได้ใช้ในราคาสบายกระเป๋า

Aspire นั้นเป็นไลน์สินค้าคอมพิวเตอร์หนึ่งของ Acer ที่วางตำแหน่งตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับทุกคนในครอบครัว และใช้ในธุรกิจขนาดย่อม ซึ่งในไลน์มีทั้งโน้ตบุ๊คและเดสท์ทอปพีซี Aspire  จึงเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างย่อมเยา และมีสเป๊กเพียงพอกับความต้องการใช้ของทุกคนในครอบครัว สำหรับ Aspire V5 Touch นั้นเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เกาะกระแสจอสัมผัส แถมยังมีความพิเศษที่หน้าจอกว้างพิเศษถึง 15.6 นิ้ว และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งจะช่วยเปิดประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คระบบจอสัมผัสให้แก่ผู้ใช้อย่างเต็มที่






Acer Aspire V5 ยังมาพร้อมกับขุมพลังซีพียู Intel  Core i3-3217U Ivy Bridge การ์ดจอ Intel HD Graphic 4000 แรม 4 GB cละฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB ส่วนภายนอกได้รับการออกแบบให้เป็นทรงเหลี่ยม ดูแตกต่างจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่นิยมกันในปัจจุบัน แต่ก็ให้เสน่ห์แบบวินเทจและสร้างภาพลักษณ์ที่ทนทานแข็งแรง

มาที่หน้าจอซึ่งถือว่าเป็นไม้ตายของ Acer Aspire V5 ที่มีขนาดกว้างถึง 15.6 นิ้ว แสดงผลได้ถึง 1366×768 ทำให้สามารถมองเห็นไอค่อนบนจอได้อย่างชัดเจนทุกวัย ด้านการใช้งานจอสัมผัส ถือว่า Acer Aspire V5 ทำระบบได้ดี สามารถสัมผัสได้อย่างไม่ติดขัด แถมยังใช้ขอบแบบ Glare ซึ่งเป็นจอไร้ขอบ ทำให้สัมผัสเรียบลื่นเหมือนใช้งานแท็ปเล็ททีเดียว

อีกความพิเศษที่น่าสนใจของ Acer Aspire V5 คือระบบการจัดการพลังงานของเครื่องที่ทำออกมาได้ดี เพราะแบ็ตเตอร์รี่ของเครื่องนั้นมีความค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจอภาพขนาด 15.6 นิ้ว แต่ระบบจัดการพลังงานก็สามารถทำให้เครื่องสามารถเปิดต่อเนื่องโดยไม่เสียบปลั๊กได้ถึง 4 ชั่วโมง

Acer Aspire V5 จึงเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คซึ่งถือว่าประสิทธิภาพคุ้มค้าเมื่อเทียบกับราคาสองหมื่นต้น ๆ โดยเฉพาะหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีระบบสัมผัส ซึ่งหาได้ยากในช่วงราคานี้ หากคิดจะซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไว้ทำงานทั่ว ๆ ไป หรือดูหนังฟังเพลง หรือนำมาใช้แทนเดสท์ทอปพีซีแล้วละก็ Acer Aspire V5 น่าสนใจมาก

ข่าว IT Windows 8.1 เริ่มให้ใช้ทั่วโลก ตุลาคมนี้

        

Windows 8.1 เริ่มให้ใช้ทั่วโลก ตุลาคมนี้



การประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ครบรอบ 1 ปี หลังจาก Windows 8 เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว แม้อัตราการเติบโตของ Windows 8 จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ Microsoft พึงพอใจเท่าที่ควร บวกกับอุปกรณ์ที่รัน Windows 8 ยังไม่สามารถตีตลาดได้ตามเป้าหมายด้วยปัจจัยของสินค้าที่ยังมีอยู่น้อยเกินไป ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ทำให้ Microsoft จึงตัดสินใจออกอัพเดตระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่ชื่อ Windows 8.1 ด้วยระยะเวลายังไม่ถึง 1 ปี นับเป็นการเปลี่ยนโฉมการออกรุ่นใหม่ของ Windows ที่แต่เดิมมักออกทุก 2-3 ปีครั้ง ซึ่งกว่าจะมาเป็น Windows 8.1 ได้ทาง Microsoft ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้หลังได้สัมผัส Windows 8 นั่นจึงเป็นที่มาของการรีเทิร์นของ "ปุ่ม Start" ที่กลับประจำการในตำแหน่งที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี




นอกจากการปรับฟีเจอร์ต่างๆให้ใช้สะดวกต่อผู้ใช้แล้ว Microsoft ยังแสดงให้เห็นว่า Windows 8.1 สามารถรองรับการทำงานบนแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วจนถึง 10.6 นิ้วได้ และเป็นที่มาของข่าวลือของ Surface รุ่น 2 ขนาด 7-8 นิ้วที่ Microsoft กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้การเปิดให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปได้อัพเดตเป็น Windows 8.1 ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ น่าจะมีอุปกรณ์ที่รองรับกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ตามมาอีกเช่นกัน ก็ต้องคอยติดตามว่าจะเป็น Surface รุ่น 2 อย่างที่มีข่าวมาในระยะหลังๆหรือไม่

ข่าว IT ทีโอที ย้ำภาพผู้นำบริการ Hi-Speed Internet ล่าสุดเปิดบริการสูงสุด 12 เมกซ์

ทีโอที ย้ำภาพผู้นำบริการ Hi-Speed Internet ล่าสุดเปิดบริการสูงสุด 12 เมกซ์





ทีโอที ย้ำภาพผู้นำบริการ Hi-Speed Internet ล่าสุดเปิดบริการสูงสุด 12 เมกซ์ระดมยิงโฆษณา อัดกิจกรรมโรดโชว์ขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศดึงอ้น ศรีพรรณ และทีน สราวุฒิ ร่วมโปรโมทกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง


บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) โดยนายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ จัดงานแถลงข่าวตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการ Hi-Speed Internet ซึ่งมีแพ็คเกจความเร็วรองรับตั้งแต่ 2 Mb, 3Mb, 4 Mb, 8 Mb และ 12 Mb ด้วยระดับราคาที่คุ้มค่า โดยทุกแพ็คเกจลูกค้าใหม่จะได้รับฟรี Dual port modem หรือ รับสิทธิแลกซื้อ Router 4 ports หรือ wireless router ในราคาพิเศษ พร้อมกันนี้ภายในงานยังมีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Floating Market และกิจกรรมโรดโชว์ “ทีน อ้น ทั่วไทย เจอ 2 คนที่ไหนได้ฟรี ทีโอที ไฮ สปีด อินเตอร์เน็ต” 



วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT iOS 7 การออกแบบที่ถูกใจกว่า iOS 6



iOS 7 การออกแบบที่ถูกใจกว่า iOS 6


  หากเพื่อนๆอยากรู้ว่า iOS 7 กับ iOS 6 ผู้ใช้จะชื่นชอบสไตล์ใดมากกว่ากัน วันนี้เรามีผลสำรวจออนไลน์จาก Polar compares เป็นการเปรียบเทียบ user interface ระหว่างว่า "ของเก่ากับของใหม่" อันไหนจะถูกใจผู้ใช้ที่สุด ในการสำรวจครั้งนี้เป็นการนำส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงใน iOS 7 มาเทียบกับองค์ประกอบแบบเดิมของ iOS 6 พร้อมให้กลุ่มผู้ใช้ได้ให้คะแนนโหวตกัน เริ่มกันที่



๐ แถบ Lock Screen - OS 7 : 1,054 votes, iOS 6 : 254 votes
๐ Notification - iOS 7 : 1,087 votes, iOS 6 : 200 votes
๐ Contacts icon - iOS 7 : 19,702 votes, iOS 6 : 8,979 votes
๐ Siri icon - iOS 7 : 6,914 votes, iOS 6 : 8,243 votes
๐ Passbook icon - iOS 7 : 16,096 votes, iOS 6 : 14,233 votes
๐ Maps icon - iOS 7: 10,904 votes, iOS 6 : 4,195 votes
๐ Safari icon - iOS 7: 10,597 votes, iOS 6 : 17,593 votes


ชมเพิ่มเติมได้ตามรูปภาพประกอบครับ


นอกจากนี้ยังมีการสำรวจและให้คะแนนเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยบน iPhone ว่าระหว่างเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) กับระบบความปลอดภัยแบบใส่รหัสเหมือนทั่วๆไป ผู้ใช้จะเลือกแบบไหน ปรากฎว่าผลโหวตถึง 170 คะแนนเลือกเซนเซอร์สแกนลายนิ้ว ส่วนอีก 68 คะแนนเลือกแบบใส่รหัสทั่วไป
จากผลการโหวตจะเห็นแล้วว่า iOS 7 มีคะแนนทิ้งห่าง iOS 6 พอสมควร แม้ของใหม่จะมีผู้ที่ชื่นชอบมากกว่าของเก่าเป็นธรรมดา แต่ของเก่าอย่าง iOS 6 ก็ยังคงมีผู้ที่พอใจหรือชอบในเอกลักษณ์เดิมอยู่ ฉะนั้นผลโหวตดังกล่าวน่าจะเป็นการบ้านของ Apple ที่จะทำอย่างไรให้ iOS 7 เป็นที่ติดตาตรึงใจ และดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ iOS 6 ให้หันมาใช้รุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด
 อย่างไรก็ตามแม้คะแนนโหวตของ iOS 7 จะเหนือกว่า iOS 6 อย่างท่วมท้น แต่สิ่งที่จะทำทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น คือ ความง่ายในการเรียนรู้ตลอดจนการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งบททดสอบที่แท้จริงของ iOS 7 และ Apple จะเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้ iOS ทั่วโลกได้สัมผัสกันแบบจริงจัง


ข่าว IT Nexus 5 เร็วขึ้น และราคาเท่า Nexus 4



Nexus 5 เร็วขึ้น และราคาเท่า Nexus 4



หลังจาก Google กับ LG ค่อนข้างพอใจกับยอดขายของ Nexus 4 ฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัททั้งสองจะกลับมาจับมือกันอีกครั้งเพื่อต่อยอดความสำเร็จของสมาร์ทโฟนในชื่อ Nexus 5 โดยมีข้อมูลว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ทาง LG จะใช้ LG G2 เรือธงรุ่นล่าสุดของพวกเขามาเป็นต้นแบบให้กับ Nexus 5 และใช้โอเอส Android ในแบบฉบับ Pure Google ล้วนๆ และขึ้นชื่อว่ารุ่นใหม่ก็จะต้องมีความแรง เร็วขึ้นมากกว่า Nexus 4 ดังนั้น Nexus 5 จะใช้ Qualcomm Snapdragon 600 เป็นชิปประมวลผลหลักแบบ Quad-Core, หน้จอแสดงผล 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, หน่วยความจำภายใน 16 กับ 32 GB, RAM 2 GB, แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh และกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล





ซึ่งหากมองดูเผินๆแล้วเหมือนว่า Nexus 5 จะเป็นการลดสเปคมาจาก LG G2 (ผมมองอย่างงั้นนะ 555+) เชื่อว่าดีไซน์โดยรวมของตัวเครื่องไม่น่าจะเหมือนกับ LG G2 แต่น่าจะมีความใกล้เคียงกับ Nexus 4 ส่วนโอเอส Android แบบ Pure Google น่าจับตามองว่าจะเป็นรุ่น 4.3 ตามคาด หรือจะกระโดดไปเป็น 5.0 อย่างที่รอคอยกันหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่าราคาของ Nexus 5 ที่มีสเปคเร็ว แรงขึ้น ทาง Google กับ LG จะคงราคาเดิมไว้ที่ 299 เหรียญสหรัฐ หรือราคาในต่างประเทศประมาณ 9,000 บาท เหมือนอย่างตอนเปิดตัว Nexus 4 อย่างไรก็ตามการเปิดตัวต้องติดตามว่าจะอยู่ในช่วงใดเพราะการเปิดตัวทาง LG ก็ต้องคิดให้ดีเพราะ Nexus 5 อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย LG G2

ข่าว IT สุดเจ๋ง ! นาฬิกาติดกล้อง 41 ล้านพิกเซล



สุดเจ๋ง ! นาฬิกาติดกล้อง 41 ล้านพิกเซล






เสมือนการเดินตามกระแสของ SmartWatch เมื่อ Hyetis ผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้คิดค้น SmartWatch รุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า "Crossbow" ภายใต้ไอเดียที่สามารถทำงานได้มากกว่า SmartWatch ของค่ายอื่นๆ นอกจากการทำงานที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ Android, iOS และ Windows Phone 8 รองรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi, Bluetooth ตลอดจนมีเซนเซอร์ไว้ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ, วัดสภาพร่างกายของผู้สวมใส่ และเป็นไมโครโฟนขนาดจิ๋วแล้ว Hyetis Crossbow ยังติดตั้งกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กมาด้วย ที่น่าสนใจคือความละเอียดของกล้องบน SmartWatch รุ่นนี้ที่สูงถึง 41 ล้านพิกเซล พร้อมใช้เลนส์ Carl Zeiss เช่นกัน เรียกว่าความละเอียดของกล้องบน Hyetis Crossbow เทียบเท่า Nokia Lumia 1020 เลยก็ว่าได้
Hyetis Crossbow แก็ดเจ็ตสวมใส่นี้มีแผนจะเริ่มจัดส่งถึงผู้สั่งจองให้ได้อย่างน้อย 500 เรือนในปีนี้ ในสนนราคาเรือนละ 1,200 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ที่ 36,000 บาทจ้าา



วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT Pocket Lingo ฝึกพูดภาษาต่างประเทศฝีมือคนไทย จิ้มแล้วพูดแทนเรา



Pocket Lingo ฝึกพูดภาษาต่างประเทศฝีมือคนไทย จิ้มแล้วพูดแทนเรา





แอปนี้มีหลายภาษาให้เลือกมาก ทั้งเกาหลี, จีนกวางตุ้ง (ใช้ในฮ่องกง), ญี่ปุ่น, สเปน, อารบิค และโปรตุเกส (สำเนียงบราซิล)
ส่วนตัวลองใช้แอปนี้ในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น พบว่าขนาดแอปไม่ใหญ่มาก เสียงพูดชัดเจนและเป็นเสียงของคนประเทศนั้น (Native Speaker) จริง ๆ เอาไปจิ้มให้คนชาตินั้นฟังย่อมเข้าใจแน่นอน แอปนี้ใช้งานง่ายเพราะแบ่งรูปประโยคตามหมวดหมู่ และสถานการณ์ต่าง ๆ ไว้ให้เรากดเลือกได้อย่างรวดเร็วทันใจ ใช้ได้ทั้งบน iPhone, iPod touch และ iPad แถมไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างใช้งานด้วย













นอกจากนั้นยังมีระบบบัตรคำศัพท์ให้เราท่องจำประโยคง่าย ๆ ก่อนนำไปใช้จริงโดยไม่ต้องเปิดแอปก็ได้ นับว่าเป็นข้อดีมาก ๆ ปกติแล้ว ทุกแอปจะให้ลองใช้ได้ฟรีบางส่วน แต่ถ้าอยากได้ประโยคต่าง ๆ ที่ซับซ้อนขึ้น จะต้องจ่ายเงินอัพเกรดภายในแอปครับ โดยราคาอัพเกรดอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 300 บาท ก็นับว่าไม่แพงนักสำหรับแอปพลิเคชันลักษณะนี้ครับ
แต่เดี๋ยวก่อน สำหรับภาษาจีนกวางตุ้ง, สเปน และอารบิค ช่วงนี้ลดราคาอัพเกรด 50% เหลือ 4.99 ดอลลาร์ หรือ 150 บาทเท่านั้นครับ และพิเศษสุดสำหรับภาษาโปรตุเกส ที่ให้อัพเกรดฟรี วันนี้วันเดียวเท่านั้น! ฉลองวันประกาศอิสรภาพของบราซิลครับ





 

ข่าว IT ENVELOPE TRACKER เบื้องหลังการประหยัดพลังงาน 4G LTE บน GALAXY NOTE 3


 ENVELOPE TRACKER เบื้องหลังการประหยัดพลังงาน 4G LTE บน GALAXY NOTE 3






Galaxy Note 3 รุ่นที่ใช้ชิป Snapdagon 800 (รุ่นที่รองรับ 4G) จะมีชิปประมวลลดการใช้พลังงานชื่อ Envelope Tracker โดยจะควบคุมความยาวคลื่น 4G LTE เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยลง (แปลสั้นๆ ว่า Exynos Octa ที่เป็น 3G ไม่มีใช้)

Envelope Tracker สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 30% ถ้ามีการใช้งาน 4G LTE โดยชิปของ Qualcomm นี้ถูกใช้ในโทรศัพท์รุ่น Galaxy Note 3 เป็นเครื่องแรก อนาคตอันใกล้นี้เราอาจจะเห็นโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นๆ มีชิป Envelope Tracker เพื่อช่วยลดพลังงานด้วยเช่นกัน





หลักการทำงานของ Envelope Tracker นั้นเป็นการควบคุมตัวขยายสัญญาณ (ตัว Amplifier) ของคลื่น ให้เหลือแค่เท่าที่จำเป็นที่ใช้ในการส่งสัญญาณเท่านั้น แม้ว่าฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในการสร้างชิปนี้ขึ้นมาก็ถือว่ายากเอาการ ไม่ว่าจะเป็นหลักการทำงานที่ต้องใช้ หรือเทคโนดลยีต่างๆ ก็ตาม

สำหรับความถี่ของคลื่นโทรศัพท์ (ไม่ว่าจะ 1G, 2G, 3G, 4G) ต่างก็จะมียอดคลื่น และท้องคลื่น (ดังที่เห็นในภาพ) โดยปกติแล้วตัวขยายสัญญาณจะทำการควบคุมคลื่นดังกล่าว ซึ่งปัญหาของ 4G คือการที่มีความแตกต่างระหว่างยอดคลื่น กับช่วงเวลาปกติมากเกินไป

สำหรับ 3G นั้นมีช่วงความถี่ที่ค่อนข้างตายตัว ยอดคลื่นกับการใช้งานปกตินั้นไม่ต่างกันมากนัก ทำให้ไม่ว่าจะใช้ความถี่เท่าไหร่ก็ไม่ส่งผลเรื่องพลังงานเท่ากับ 4G

พูดง่ายๆ ก็คือ 4G ต้องมีตัวขยายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพ (และใช้พลังงาน) สูง ถึงจะใช้ 4G ได้ผลอย่างชัดเจน

กลับมาพูดถึง Galaxy Note 3 กันบ้าง เรารู้กันว่าสิ่งที่บริโภคพลังงานเป็นอันดับหนึ่งก็คือหน้าจอ ยิ่ง Galaxy Note มีหน้าจอขนาดใหญ่ และความละเอียดสูง ก็จะบริโภคพลังงานมาก ดังนั้นถ้าใครรันโปรแกรมทิ้งไว้ ใช้งาน 4G LTE เยอะ แต่เปิดจอไม่บ่อยเท่าไหร่ การใช้ชิป Envelope Tracker ก็จะลดพลังงานที่ใช้ตรงนี้ลงไปได้ แต่ถ้าใช้เล่นเกมส์ เปิดหน้าจอตลอดเวลา ความแตกต่างนี้อาจจะไม่เห็นผลชัดเจนนัก

นอกจาก Qualcomm แล้วยังมีบริษัทอย่าง Nojira และ Quantance พัฒนา Envelope Tracker ด้วยเช่นกัน และทั้งสองบริษัทนี้ก็อยู่ในช่วงส่งมอบชิปดังกล่าวให้แก่บรรดาผู้ผลิตชิปสัญญาณ 4G LTE คาดว่าในอนาคตนี้โทรศัพท์ 4G LTE จะประหยัดพลังงานมากขึ้นอย่างแน่นอน


วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT Samsung Galaxy Gear นาฬิกาอัจฉริยะ เผยภาพ พร้อมสเปคก่อนเปิดตัว!



Samsung Galaxy Gear นาฬิกาอัจฉริยะ เผยภาพ พร้อมสเปคก่อนเปิดตัว!



ภาพมาแล้วครับ สำหรับนาฬิกาสุดชาญฉลาด Smartwatch ของ Samsung ชื่อ Samsung Galaxy Gear ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ ว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Galaxy Note 3 ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ




เว็บไซต์ VentureBeat โพสต์ภาพ Galaxy Gear smartwatch ตามภาพด้านบน พร้อมทั้งเขียนคำประกอบว่า “ภาพนี้อาจจะไม่ใช่ภาพของตัวจริง 100% แต่ของจริงจะมีดีไซน์ไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่”




นอกจากนี้ ตามรายงานบอกว่า ผู้รายงานไม่สามารถถ่ายภาพนาฬิกาตัวจริงได้ แต่อนุญาตให้ถ่ายภาพวีดีโอที่ใช้ในการโปรโมท Galaxy Gear ได้ตามภาพท้ายข่าวเลยครับ ส่วนข้อมูล และสเปคนั้นมีดังนี้
- หน้าจอขนาดใหญ่ 3 นิ้ว มีขอบค่อนข้างใหญ่ รูปทรงสี่เหลี่ยม และมุมมีลักษณะโค้งมน
- สายนาฬิกากว้าง จนใส่ไมค์เอาไว้ได้
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ระหว่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และมี Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
- รองรับ S Voice สำหรับสั่งการด้วยเสียง
- ลงแอพ Android เอาไว้แล้ว เช่น แอพฯ Social Media (Facebook, Twitter) และแอพฯ สุขภาพ เช่น ตรวจอัตราเต้นของหัวใจ, นับจำนวนก้าว, และอื่นๆ
- รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Galaxy S หรือ Tablet
- ใช้งานง่ายด้วยการปัดหน้าจอ มีกล้องถ่ายภาพ 4 ล้านพิกเซล และแกลลอรี่
- มี Call logs (บันทึกการโทร) ที่สามารถโทรออกด้วยนาฬิกาได้
- มีปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตฯ ใช้งานได้มากกว่า 10 ชั่วโมง
- บันทึกประวัติการกินของคุณ ผ่านแอพฯ ในเครื่องและภาพถ่าย
เห็นแบบนี้แล้วสนใจ Samsung Galaxy Gear บ้างมั้ยครับ อีกไม่กี่วันก็เปิดตัวแล้วครับ














วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT iPhone 5S Vs iPhone 5c ทั้งสเปคและราคา เหมือนและต่างกันอย่างไร อย่างไม่เป็นทางการ



iPhone 5S Vs iPhone 5c ทั้งสเปคและราคา เหมือนและต่างกันอย่างไร อย่างไม่เป็นทางการ





ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ 100% ว่า ข่าวคราวเกี่ยวกับทั้ง iPhone 5S (ไอโฟน 5s) ไอโฟนที่จะมีสีทองแชมเปญเพิ่มเข้ามา และ iPhone 5C (ไอโฟน 5c) ไอ โฟนพสาสติกหลากสีสัน ว่าเป็นเรื่องจริง หรือกุข่าวขึ้นมา ประกอบกับเมื่อหลายเดือนก่อน เริ่มมีโหมข่าวทั้ง  และ iphone 5c ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอ เรียกได้ว่า อัพเดทกันรายวันเลยทีเดียว
มาดูกันว่า ถ้าหากทั้ง iphone 5s (ไอโฟน 5S) และ iphone 5c (ไอโฟน 5C) เปิดตัวจริงตามข่าวลือ จะมี สเปค และ ราคา ต่างกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งทีมงาน techmoblog ขอเปรียบเทียบให้เข้าใจกันง่ายขึ้น ในรูปแบบของตาราง โดยข้อมูลทั้งหมด รวบรวมมาจากข่าวลือที่ผ่านมาครับ



สำหรับ iphone 5s นั้น หลายฝ่ายเชื่อว่า เปิดตัวจริงในปีนี้อย่างแน่นอนครับ เนื่องจากครบกำหนด product cycle พอดี แต่สิ่งที่เป็น ไฮไลท์ ให้กับวงการ iphone ก็คือ การเปิดตัว ไอโฟนเวอร์ชั่นพลาสติก ที่จะมาทำการตลาดในชื่อของ iphone 5c (ไอโฟน 5c) นั่นเอง ว่ากันว่า iPhone 5C นั้น จะเน้นในตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น ประเทศจีน หรือประเทศอินเดีย เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย iPhone ให้สูงขึ้น เนื่องจาก iPhone รุ่นปัจจุบัน มีราคาที่สูงมากในประเทศเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้นั่นเอง
iPhone 5C (ไอโฟน 5c) น่าซื้อหรือไม่ ?




จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่า สเปค iPhone 5c นั้น คล้ายกับ iPhone 5 มากทีเดียว และเชื่อกันว่า เมื่อ iPhone 5c (ไอโฟน 5c) เปิดตัวแล้ว iPhone 5 จะถูกถอดออกจาก line ผลิตภัณฑ์ทันที และ iPhone รุ่นรอง iphone 5c ก็คือ iPhone 4S ครับ ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าจะให้เลือกระหว่าง iPhone 5c กับ iPhone 4S ดูเหมือน iphone 4s จะดีกว่าหรือเปล่า?? อย่างน้อยก็วัสดุดีกว่า แม้ขนาดหน้าจอจะเล็กกว่าก็ตาม อันนี้ก็ถือว่า เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคลครับ แต่อย่าลืมว่า ยิ่ง iPhone รุ่นใหม่มากแค่ไหน การอัพเดท iOS รวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ จะได้ภาษีดีกว่ามาก ด้วยเหตุนี้ ทีมงาน techmoblog เชื่อว่า ต่อให้ iphone 5c ออกมาในรูปแบบของ ตัวเครื่องพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ก็ยังสามารถจำหน่าย และตีตลาดได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่านิยมครับ เนื่องจากยังมีคนจำนวนมาก ที่อยากถือ iphone แต่ไม่มีงบประมาณมากพอที่จะซื้อมาใช้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ทางฝั่งของ Apple ผู้พัฒนา iPhone ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมไปถึงกำหนดการ เปิดตัว ทั้ง iPhone 5S (ไอโฟน 5s) และ iPhone 5C (ไอโฟน 5c) ในวันที่ 10 กันยายนนี้ ก็ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดเช่นกันครับ






ข่าว IT เปิดตัว iOS 7 มีอะไรใหม่บ้าง?


เปิดตัว iOS 7 มีอะไรใหม่บ้าง?







            อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญจากงาน WWDC 2013 แอปเปิลได้ประกาศเปิดตัว iOS 7 ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างเป็นทางการ แน่นอนมันได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนแอปเปิลทั่วโลก เพราะ iOS 7 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแอปเปิล ด้วยอินเตอร์เฟซของ iOS 7 ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เรียกได้ว่าฉีกความเป็น iOS แบบเดิม ๆ ไปทั้งหมด 

            สำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่บน iOS 7 ครั้งนี้ถูกออกแบบโดย Jonathan Ive เป็นคนออกแบบอินเตอร์เฟซใหม่ทั้งหมด มาพร้อมแนวคิด "Flat Design" ที่จะเน้นไปที่ความบาง, ตายตัว, เรียบง่ายและดูดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้หน้าใหม่ iOS 7 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบ ส่วนจะมีฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย 


Control Center



                เชื่อว่าฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจสาวกแอปเปิลหลาย ๆ คนแน่นอน เพราะ iOS 7 แอปเปิลได้เพิ่มControl Center เปรียบเหมือนกับ SB Settings หรือ Toggle Settings ที่ผู้ใช้มือถือ Android หลายคนคุ้นเคย ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าตั้งค่าต่าง ๆ เบื้องต้นได้ วิธีการเรียกใช้ Control Center ก็ง่าย ๆ เพียงลากนิ้วจากหน้าจอข้างล่างขึ้นด้านบน ก็จะมีเมนูตั้งค่าต่าง ๆ แสดงขึ้นมา เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi/3G, เปิด Airplane mode, Bluetooth, Do Not Disturb, ปรับแสงหน้าจอ, ควบคุมการฟังเพลง, ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข และกล้อง เป็นต้น ถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์ที่สะดวกมาก ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเจลเบรค iOS เพื่อเพิ่มฟีเจอร์แบบนี้เข้ามาอีกต่อไป 



Notification Center




                 Notification Center ศูนย์รวมการแจ้งเตือนบน iOS 7 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มส่วน Today ที่แสดงสิ่งที่ต้องทำวันนี้ โดยดึงข้อมูลจากที่เราบันทึกไว้บนปฏิทิน ส่วน Missed จะรวม การแจ้งเตือนทั้งหมดที่เรายังไม่ได้เปิดดู เช่น ข้อความ, สายที่ไม่ได้รับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Notification Center โดยเลื่อนลงมาดูได้แม้จะล็อกหน้าจออยู่ก็ตาม สำหรับ Notification Center ถือว่าปรับปรุงได้ดีและมีประโยชน์มากกว่าเดิม 


Multitasking



                 ระบบ Multitasking แบบใหม่ที่ดีกว่า เพราะถูกออกแบบมาให้อนุญาตเฉพาะบางแอพพลิเคชั่นเท่านั้นแจ้งเตือนได้ หากแอพฯ ไหนไม่ได้ใช้งานก็จะถูกหยุดการทำงาน ซึ่งทางแอปเปิลได้เปลี่ยนค่าการวัดจากเดิมที่เป็น Active/Non-Active มาเป็นการวัด Priority ให้ความสำคัญกับแอพฯ ที่เรากำลังใช้งานอยู่ ส่วนแอพฯ ที่ไม่ได้ใช้ก็จะหยุดทำงาน ระบบ Multitasking แบบใหม่นี้จะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น


Camera




                แอปเปิลได้ปรับปรุงแอพฯ Camera บน iOS 7 ใหม่ โดยเปลี่ยนอินเตอร์เฟซของกล้องและเพิ่มลูกเล่นแต่งภาพใส่ฟิลเตอร์ให้กับรูปภาพได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาแอพฯ แต่งภาพอีกต่อไป ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ของกล้องถ่ายภาพยังเหมือนเดิม


Photo




              ในส่วนของแอพฯ Photo บน iOS 7 เพิ่มตัวเลือกในการแสดงภาพแบบตามสถานที่ หรือเลือกแสดงตามเวลาที่ถ่ายภาพเพื่อง่ายต่อการค้นหา และมี iCloud Photo Sharing ใช้สำหรับแชร์ภาพและวิดีโอ รวมถึงแชร์ภาพผ่าน AirDrop เพื่อส่งรูปภาพให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone, iPad และ iPod touch ได้


AirDrop 




                 AirDrop สำหรับใครที่ใช้ MacBook น่าจะรู้จักกับฟีเจอร์นี้เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นฟีเจอร์ใหม่ แต่ทางแอปเปิลได้เพิ่มฟีเจอร์ AirDrop เข้ามาอยู่ใน iOS 7 ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพ ส่งภาพผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth ให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone, iPad หรือ MacBook ได้สะดวกกว่าเดิม 


Safari 




               เว็บบราวเซอร์อย่าง Safari ก็มีการปรับปรุงใหม่เช่นกันบน iOS 7 มีการปรับอินเตอร์เฟซใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเมนูแท็บแบบใหม่และแสดงผลแบบ Full screen browsing รวมถึงสามารถซิงก์ข้อมูลได้กับ iCloud Keychain ระบบจัดการรหัสผ่าน และบัตรเครดิตที่จะเก็บไว้บน iCloud พร้อมทั้งซิงก์ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ และ Password Generator ที่ช่วยสร้างรหัสผ่านเมื่อเราสมัครหรือสร้างบัญชีบนเว็บผ่าน Safari 


iTunes Radio




                iTunes Radio บริการวิทยุออนไลน์ผ่านระบบ "สตรีมมิ่ง" (Streaming) ที่มีกว่า 200 สถานี ผู้ใช้สามารถเปิดฟังเพลงได้ทั้งบน iPhone, iPod Touch, iPad, Mac, Apple TV และบน PC โดยมีโฆษณา และสามารถแบ่งสถานีตามหมวดเพลง ส่วนคนที่ใช้ iTunes Match จะไม่มีโฆษณา ฟังแล้วถูกใจคลื่นไหนสามารถกดแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ สำหรับ iTunes Radio จะเริ่มเปิดบริการในอเมริกาก่อนเป็นที่แรก 


Siri 




              Siri ฟีเจอร์เก่า แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้น่าใช้งานกว่าเดิม โดย Siri บน iOS 7 ได้เพิ่มเสียงเลขาผู้ชายเข้ามา รวมถึงสามารถตอบโต้ในภาษาอื่นได้ และเพิ่มการค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia และ Twitter 


App Store




              สำหรับ App Store บน iOS 7 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เหมาะกับคนขี้เกียจอัพเดทแอพฯ บ่อย โดยแอปเปิลได้เพิ่มระบบอัพเดทแอพฯ อัตโนมัติโดยไม่ต้องกดเข้าไปอัพเดทเอง และไม่มีการแจ้งเตือนการอัพเดทมารบกวน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Apps Near Me ที่แนะนำแอพฯ ยอดนิยมในประเทศที่เราใช้งาน หรือแสดงแอพฯ ที่เป็นประโยชน์ที่เราอยู่ ณ ตอนนั้น


Find My iPhone 




Find My iPhone อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของคนใช้ iOS ที่ใช้สำหรับตามหาหรือดูตำแหน่ง iPhone แอปเปิลได้ปรับปรุง Find My iPhone ใหม่เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นเรียกว่า "Activation Lock" ในกรณีที่ iPhone หายเมื่อเราใช้คำสั่งล็อกเครื่องจาก Find my iPhone ถึงแม้เครื่องจะถูกล้างข้อมูลทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ก็จะไม่สามารถ Activate เครื่องได้ การ Activate เครื่องได้จะต้องใช้ Apple ID ของเจ้าของเครื่องเท่านั้น